สุภโชค สารชาติ กองกลางทีมชาติไทย จากสโมสรคอนซาโดเล ซัปโปโร ในศึกเจลีก ญี่ปุ่น ยอมรับต้องพิสูจน์ตัวเองในทุก ๆ วัน เพื่อโอกาสลงสนามกับต้นสังกัด แม้จะตกเป็นตัวสำรอง แต่ทำให้เข้าใจฟุตบอลมากขึ้น
ดาวเตะวัย 24 ปี กำลังเผชิญกับฤดูกาลที่ท้าทายกับต้นสังกัดอย่างคอนซาโดเล ซัปโปโร ในลีกสูงสุดของญี่ปุ่น เมื่อได้ลงสนามไปเพียง 3 เกมรวมทุกรายการ แบ่งเป็นตัวจริง 1 นัดในศึกฟุตบอลถ้วย และตัวสำรอง 2 นัดในศึกเจลีก ญี่ปุ่น ก่อนจะได้รับโอกาสจาก มาโน่ โพลกิ้ง เรียกตัวกลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้งในโปรแกรมอุ่นเครื่องฟีฟ่า เดย์ เดือนมีนาคม 2023 ซึ่งครั้งล่าสุดที่ สุภโชค สารชาติ รับใช้ทัพช้างศึก ต้องย้อนกลับไปในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเดือนกันยายน ปี 2022
“ดีใจครับที่มีโอกาสกลับมาเล่นให้ทีมชาติไทยอีกครั้ง รู้สึกดีที่ได้มาเจอพี่ ๆ เพื่อน ๆ หลังจากไปค้าแข้งที่ญี่ปุ่น” สุภโชค กล่าวกับ ช้างศึก
“พอเราย้ายไปเล่นฟุตบอลในลีกที่มีคุณภาพสูงขึ้น มันก็ย่อมมีเรื่องที่ต้องปรับตัวเป็นธรรมดาครับ เพราะผมคิดตั้งแต่ที่ผมตัดสินใจย้ายไปแล้ว ไทยลีกกับเจลีกแตกต่างกันมากทั้งเรื่องวิธีการเล่นและชีวิตนอกสนาม”
“ผมพยายามปรับตัวอยู่ตลอดครับ แต่ก็อาจจะมีช่วงที่ติดขัดนิดหน่อย แน่นอนว่าผมพร้อมเรียนรู้ในทุก ๆ วันอยู่แล้ว”
สุภโชคถูกคอนซาโดเล ซัปโปโร ยื่นข้อเสนอถาวรซื้อตัวมาจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งในฤดูกาล 2023 ที่กำลังแข่งขันในขณะนี้ เป็นซีซั่นที่ สุภโชค สารชาติ ต้องต่อสู้อย่างหนักในการพิสูจน์ตัวเองบนลีกระดับสูงอย่างศึกเจลีก ซึ่งเจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนามในเกมลีก 2 นัดในฐานะตัวสำรอง
“ฤดูกาลนี้เป็นปีแรกที่ผมมาอยู่ด้วยสัญญาถาวร มันทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง คิดว่ามันเริ่มดีขึ้นในทุก ๆ วัน ส่วนเรื่องโอกาสลงสนาม แม้ว่าผมจะยังไม่ค่อยได้รับโอกาสมากนัก แต่ก็จะพยายามทำงานหนักอยู่เสมอและรอคอยโอกาสของตัวเองต่อไป”
“มีหลายอย่างแตกต่างจากที่ผมเคยเล่นทั้งเรื่องสปีดบอล, ความเข้มข้นของเกม, การแข่งขันภายในทีม ทุกอย่างต้องมืออาชีพ ผมเข้าใจว่าในฐานะนักฟุตบอลคนหนึ่ง ทุกคนอยากลงสนามอยู่แล้ว แต่พอไม่ได้เล่นมันก็ทำให้เรายิ่งต้องพิสูจน์ตัวเองมากขึ้นไปอีก ผมคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ความมั่นใจของผมอาจจะดร็อปลงไปเพราะไม่ค่อยได้ลงสนาม แต่ในมุมหนึ่งมันก็ไม่ใช่อุปสรรคทั้งหมด”
สุภโชค สารชาติ เป็นหนึ่งในสองแข้งช้างศึกร่วมกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางจากคาวาซากิ ฟรอนทาเล ที่ค้าแข้งในศึกเจลีก 2023 ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นซีซั่นที่ท้าทายสำหรับทั้งคู่ในการต่อสู้เพื่อโอกาสลงสนาม โดย สุภโชค เผยว่าเมื่อมีโอกาสมักจะพูดคุยและขอคำปรึกษาจากดาวเตะรุ่นพี่เป็นประจำ ก่อนกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในนามทีมชาติไทย
“ปกติอยู่ที่ญี่ปุ่นก็คุยกับพี่เจตลอดครับ คุยกันบ่อยมาก (ยิ้ม) อย่างที่เรารู้กันว่าสถานการณ์ของผมกับพี่เจยังไม่ค่อยได้ลงสนามให้ต้นสังกัดมากนัก เราพยายามส่งต่อกำลังใจให้กันตลอด ‘พี่สู้ ผมก็สู้!’ เพราะเราเหลือกันอยู่สองคนแล้ว ก็พยายามติดต่อขอคำปรึกษากันเป็นประจำครับ”
“พอได้กลับมาติดทีมชาติไทยชุดนี้มันก็เหมือนการได้กลับมารีเฟรชตัวเอง ได้มาเจอเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่รู้จักและเล่นด้วยกันมานาน ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นมากขึ้น ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เพราะอยู่ที่ญี่ปุ่นอาจจะมีความรู้สึกเหงาบ้าง (ยิ้ม)”
เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมฟีฟ่า เดย์ ที่ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง จะได้ใช้งาน สุภโชค สารชาติ แบบเต็มศักยภาพกับคู่ต่อสู้ระดับหัวแถวของทวีปเอเชีย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าต้องการบุกไปเก็บผลการแข่งขันที่ดี เพราะมันจะส่งผลต่ออันดับฟีฟ่าแรงกิ้งของทัพช้างศึกในอนาคต
“สองเกมที่จะเจอกับซีเรียและยูเออี เป็นแมตช์ที่พวกเราตั้งใจไปเอาชนะอยู่แล้วครับ เพราะสิ่งสำคัญอยู่ที่การทำอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งในอนาคต ซึ่งมันจะส่งผลต่อการจับสลากแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ด้วย ผมว่าทุกคนรู้เรื่องนี้ดี เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชัยชนะทั้งสองเกม”
“ฝากแฟนบอลช้างศึกช่วยเชียร์พวกเราในการแข่งขันครั้งนี้ด้วยครับ แม้จะเป็นเกมอุ่นเครื่องแต่ว่าเป็นแมตช์ที่สำคัญมาก ได้เจอกับทีมใหญ่ระดับทวีป พวกเราสู้กันอย่างเต็มที่แน่นอน”
“ที่ผ่านมาผมสัมผัสได้ถึงแรงเชียร์และการสนับสนุนที่ดีของแฟน ๆ ผมยังสบายดี (ยิ้ม) คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของฟุตบอลครับ (โอกาสลงสนามให้ต้นสังกัด) อย่าลืมเชียร์พวกเรานะครับ” สุภโชค ปิดท้าย
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ มีดังนี้
คืนวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 01.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ทีมชาติซีเรีย พบ ทีมชาติไทย
สนามชะบาบ อัล อาห์ลี สเตเดียม, ดูไบ
คืนวันที่ 28 มีนาคม 2566 เวลา 01.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบ ทีมชาติไทย
สนามอัล นาห์ยาน สเตเดียม, กรุงอาบูดาบี
ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี และ AIS PLAY ทั้งสองนัด
